King Kong on Hin Kong

เราเริ่มต้นการทำงานด้วยโจทย์จากเจ้าของร้านที่ค่อนข้าง “ต่างออกไป” ในแง่มุมของแนวคิดการเริ่มทำธุรกิจสักอย่างนึงขึ้นมา ว่าด้วยความต้องการอยากทำ Bar ที่จะเปิดอาทิตย์ละแค่ 2 วันเท่านั้น และไม่ต้องการให้การเกิดขึ้นและดำรงอยู่ของสถาปัตยกรรมไผ่และธุรกิจนี้ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจดั้งเดิมในพื้นที่ รวมไปถึงระบบนิเวศน์เศรษฐกิจท้องถิ่น
• ‘รายได้ หรือ กำไร’ ที่เป็นตัวเงิน จะไม่ใช่ตัวแปรที่สำคัญที่สุดในสมการของการทำธุรกิจครั้งนี้ของเจ้าของร้าน แต่กลับกลายเป็น ‘ความสุข’ ที่เกิดขึ้นจากการได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา นักเดินทางที่อาจจะเดินทางข้ามซีกโลกเพื่อโคจรมาพบเจอกันที่สถานที่แห่งนี้ บทสนทนาจากคนแปลกหน้า แลกเปลี่ยน แบ่งปัน ประสบการณ์ เรื่องราว บอกเล่าร่องรอยของการใช้ชีวิต ต่างหากที่จะเป็น ‘กำไร’ ที่แท้จริง ที่สถานที่แห่งนี้จะสร้างให้เกิดขึ้น
.
• ด้วยความรัก ความหลงใหล ในมนต์เสน่ห์ที่ตัวเจ้าของร้านมีต่อเกาะพะงัน สะท้อนออกมาในรูปแบบของอาคารสถาปัตยกรรมไผ่ภายใต้แนวคิด ‘ส่วนโค้ง-ส่วนเว้า ตามธรรมชาติ’ (Natural Curve) เพราะเราเชื่อว่าในโลกใบนี้ไม่มีผู้สร้าง หรือ นักออกแบบคนไหนที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่า ‘ธรรมชาติ’ อีกแล้ว จึงก่อเกิดเป็นการรวบรวม เส้นสาย มวล เรขาคณิต ต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติของเกาะพะงัน ตกตะกอนเป็นสถาปัตยกรรมไผ่ที่แสดงออกถึงความพริ้วไหว การเคลื่อนที่ การหมุนเวียน เปลี่ยนแปลง ที่ไม่เคยหยุดและไม่มีวันหยุดนิ่งของธรรมชาติบนเกาะ
.
• สุดท้ายเรามีเป้าหมายร่วมกัน ที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นดั่งปรากฏการณ์ธรรมชาติ ‘พระจันทร์เต็มดวง’ (Full Moon) บนเกาะพะงัน เป็นปรากฏการณ์ที่เราจะไม่สามารถชื่นชมมันได้ทุกวัน ทำได้เพียงแค่รอคอยให้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นจึงเกิดขึ้น โดยมีปลายทางเป็นการสร้างความน่าสนใจให้นักเดินทาง หันมาท่องเที่ยวที่เกาะพะงันมากขึ้น มาชื่นชมความสวยงาม มาใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติของเกาะพะงัน ที่ยังมีอีกหลายแง่ หลายมุม ให้ได้ค้นหาอีกมากมาย